|
FIxed Gear*
จักรยานธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
อาจจะดูไม่แปลกเลยใช่ไหม แถมไม่ติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคชนิดไหนเลย แต่ทำไมผู้คนถึงนิยมกันทั่วโลก เหตุผลง่ายๆ ที่จะทำให้คุณลึกซึ้งกับเจ้าจักรยานคันนี้คือ หนึ่งฟิ๊กเกียร์เป็นรถจักรยานต้นแบบคันแรกของโลก สองล้อหลังไม่สามารถฟรีหรือพักปั่นได้ จึงต้องใช้ทักษะอย่างสูงในการควบคุม เปรียบดังรถแข่งตัวแรงที่คุณต้องสยบมันให้อยู่หมัด และสามมีอุปกรณ์น้อยกว่าจักรยานทั่วไป ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา อีกทั้งยังสามารถตกแต่งจักรยานได้หลายรูปแบบตามใจของเด็กแนว นี่แหละที่ใครๆ ต่างยกให้ฟิ๊กเกียร์เป็นสุดยอดจักรยานของลูกผู้ชายตัวจริง1. ฟิ๊กเกียร์แบบสำเร็จรูป มีหลายราคาตั้งแต่ 13,000 บาท ถึง 35,000 บาท หาซื้อได้ตามลำดับของแบรนด์จากไต้หวันถึงแบรนด์อิตาลี อย่างแบรนด์ Cinilli หรือ Masi แต่ผลิตในไต้หวัน ไม่ใช่อิตาลีแท้ๆ หรือแบรนด์อเมริกาจาก SE และ SOMA ก็เช่นกัน อาจจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท ถึง 35,000 บาท แต่ก็ยังผลิตในเอเชียอยู่ดี (ราคาต่ำจะผลิตในเอเชียแทบหมด) สำหรับเฟรมสำเร็จนั้นี่มีตั้งแต่รูปทรงแบบ SLIM หรือ BIG&BOLD แบรนด์จากไต้หวันอาจจะดูไม่เรียบร้อยเหมือนเฟรมของอิตาลี ที่สำคัญมีน้ำหนักมากกว่าแบบทำเองต่อเอง ทำให้เล่นท่าได้ยากกว่า 2. ฟิ๊กเกียร์แบบ ต่อเองแบบนี้สามารถเลือกอุปกรณ์ได้ทุกชิ้นตั้งแต่เฟรมลงไป ซึ่งอาจจะเป็นแบบ Tailor-made เหมือนการสั่งตัดเสื้อ ซึ่งราคาทำเองต่อเองก็มีตั้งแต่ประมาณ 10,000 บาท ไปจนถึงประมาณแสนกว่าๆ ถ้าเป็นของอเมริกาที่นิยมกันก็มี Circle A Cycle ที่ญี่ปุ่นมีแบรนด์สั่งตัดได้ เช่น Kalavinka, Nagasawa, Baramon ฯลฯ ส่วนในบ้านเรานั้น คนไทยที่ทำคือ คุณช๊วง โคราช ราคาอยู่ประมาณ 10,000 บาท ซึ่งการทำเองต่อเองจะได้ความรู้สึกสนุกกับการเลือกอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่มากมายตามต้องการ และที่สำคัญเราได้ประกอบเองด้วย อย่างเช่นจักรยานฟิ๊กเกียร์สีดำเงาวับที่นำมาเสนอนี้ จัดได้ว่าเป็นสุดยอดที่ทำเองต่อเองทุกกระเบียดนิ้ว เป็นการสั่งตัดตามขนาดความสูง และสัดส่วนของเจ้าของรถ อีกทั้งยังเลือกเป็นพาสอะไหล่ NJS ของญี่ปุ่นทั้งหมด ราคาเสร็จสรรพของเจ้าฟิ๊กเกียร์สีดำเงาคันนี้ ตกอยู่ที่ประมาณ 140,000 บาท 1. ยางนอก ยางแบบรถฟิ๊กเกียร์จะมีขนาดเล็กกว่าจักรยานทั่วไป โดยล้อหลังใช้ขอบล้อ 700c และล้อหน้าใช้ขอบล้อ 650c หรือ 700c จึงทำให้มีน้ำหนักเบา ประกอบขอบล้อได้ง่ายทั้งปกติและขอบสูง เวลาใช้งานจริงช่วยให้เกาะถนนดี ทำความเร็วบนทางเรียบได้ดี และทนแรงบิดได้ดี 2. ดุมมีให้เลือก 2 แบบ คือ 32 รู และ 36 รู ทั้งนี้แบบ 36 รู จะแข็งแรงกว่า 32 รู แต่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน3. คอและถ้วยคอมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบคอจุ่ม ซึ่งเวลาใส่แล้วจะดูคลาสสิคมาก ส่วนคอหนีบ ไว้สำหรับคนที่อยากแต่งเป็นแนว Street หรือดูแบบ Racing มากกว่า4. ขาจานต้องเป็นขนาดความยาว 165 mm. หรือแบบสแตนดาสนั่นเอง5. ใบจานและเฟืองหลังใช้ขนาด PCD144/45,46,47T (จำนวนซี่ฟัน) แต่ถ้าอยาก Skid ให้สบายขึ้นมีสูตรง่ายๆ คือ ใช้เฟืองหน้า 46, 47 เฟืองหลัง 19
เนื้อหาจาก : http://www.bangkokfixedgear.com
|